ELLE Fashion Week 2024 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 ตุลาคม 2567 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ YOUTH ENERGY แสดงให้เห็นถึงพลังสร้างสรรค์ผ่านผลงานแฟชั่นที่สดใหม่ พร้อมมอบพื้นที่เพื่อผลักดันดีไซเนอร์เจเนอเรชันใหม่ของไทย โดยเนรมิตแลนด์มาร์กริมเจ้าพระยาให้กลายรันเวย์แฟชั่นสุดอลังการ นำเสนอผลงานทั้งดีไซเนอร์ชั้นนำระดับประเทศและระดับโลก ทั้งหมด 13 โชว์ จาก 15 ดีไซเนอร์

Wednesday 9 October 2024

15.00 Tony Ward

18.00 Sirapop

20.00 La Boutique

Thursday 10 October 2024

16.00 Beenet Corset

18.00 Anuruq

20.00 Sretsis

Friday 11 October 2024

14.00 Petchploy

16.00 Special Show : Larobe8, O.D.C. X BBMP, Yunchanny

18.00 Wacay

20.00 Vvon Sugunnasil

Saturday 12 October 2024

16.00 IconCraft

18.00 NICHp

20.00 Hook’s


อาลี ซีอานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมส ดิจิทัล จำกัด เผยว่า เป็นครั้งแรกของ ELLE Fashion Week กับรันเวย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนสถานที่ใหม่ ICONSIAM แลนด์มาร์กสำคัญของไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก และตอกย้ำความแข็งแกร่งของ ELLE และ ELLE MEN Thailand นิตยสารชั้นนำระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศสที่ร่วมผลักดันศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นประเทศไทย ด้วยการจัดแสดงแฟชั่นโชว์จาก TONY WARD Couture ครั้งแรกในไทย และเป็นครั้งแรกที่มีแบรนด์กูตูร์ระดับโลกมาร่วมโชว์บนรันเวย์ของ ELLE Fashion Week แห่งนี้ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้กับ Young Designers รวมถึงแบรนด์ใหม่ๆ ได้มาแสดงความสามารถอีกด้วย

สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ICONSIAM ในฐานะ Global Destination แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยาของไทย รวบรวมสุดยอดประสบการณ์และ ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรม และแฟชั่นของไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล ซึ่งสอดคล้องวิสัยทัศน์กับการจัดงาน Elle Fashion Week ถือเป็นงานที่ยกระดับวงการแฟชั่นไทย ช่วยส่งเสริมและสร้างโอกาสให้กับดีไซเนอร์ไทยได้แสดงออกและพัฒนาศักยภาพ ผลักดันให้วงการแฟชั่นไทยเติบโตและเป็นที่รู้จักในระดับสากลมากยิ่งขึ้น โดยไอคอนสยามได้นำผลงานการออกแบบของดีไซเนอร์ไทยมาร่วมจัดแสดงแฟชั่นในครั้งนี้ด้วยผ่านโชว์พิเศษของ ICONCRAFT ซึ่งนำผ้าบาติกไทยมาออกแบบและสรรค์สร้างสู่ ไฮแฟชั่นสมัยใหม่โดย 3 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชื่อดัง เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย นอกจากนี้ยังจัด Pop – Up Exhibition ให้ชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศได้ชมผลงานของไทยดีไซเนอร์ที่ชั้น M บริเวณ เจริญนคร ฮอลล์ เพื่อยกระดับประสบการณ์แฟชั่นครบทุกมิติ

ประเดิมเปิดรันเวย์ ELLE Fashion Week 2024 (วันที่ 9 ตุลาคม 2567) กับแบรนด์ TONY WARD Couture แบรนด์กูตูร์ระดับโลก ที่มาจัดแฟชั่นโชว์ครั้งแรกในไทย จากนั้นถึงโชว์ของแบรนด์ SIRAPOP โดย สิรภพ เดชรักษา มาพร้อมกับพลังความเป็นนิวยอร์กสร้างความแปลกใหม่ให้กับรันเวย์ ELLE Fashion Week ด้วยเสื้อผ้าภายใต้คอนเซ็ปต์ Desktop to Dance Floor ที่สามารถสวมใส่ได้ตั้งแต่ห้องประชุม ในออฟฟิศไปจนถึงงานค็อกเทลปาร์ตี้ ปิดโชว์วันแรกกับ LA BOUTIQUE โดย พัชรวัฒน์ ตระกาลสันติกูล และ ภูริณัฐ วงศ์สถาพรสกุล ถือโอกาสเฉลิมฉลองการเดินทางบนเส้นทางสายแฟชั่นอันยาวนาน 12 ปี ด้วยการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ “La Vie en Rose, Atelier Collection 2025” สะท้อนเรื่องราวของแบรนด์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้ ดั่งดอกกุหลาบที่ค่อยๆ แตกหน่อและบานสะพรั่งอย่างงดงามและน่าหลงใหล

แฟชั่นโชว์วันที่ 2 (วันที่ 10 ตุลาคม 2567) เปิดรันเวย์กับแบรนด์ BEENET CORSET โดย เนตรนภา กาบแก้ว แบรนด์สุดเก๋ที่มีเอกลักษณ์และเป็นตัวของตัวเองอย่างที่สุด นำเอาคอร์เซตมาพัฒนาสร้างสรรค์ เป็นเสื้อผ้าในรูปแบบใหม่ ที่ทำให้สาวๆ มีความมั่นใจ และได้ทลายกำแพงแฟชั่นแบบเดิมๆ ของตัวเอง ด้วยการลุกขึ้นมาปรับลุคตัวเอง กล้าทดลองท้าทายและสนุกสนานไปกับการแต่งตัวมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่สาวๆ เท่านั้น แต่ยังโอบรับความหลากหลายของทุกเพศ ต่อด้วยแบรนด์ ANURUQ โดย อนุรักษ์ ใจดี ครั้งแรกกับการนำเสนอผลงานบนเวที ELLE Fashion Week พาทุกคนย้อนไปสู่ American western old town ผ่านเสื้อผ้า Menswear ในรูปแบบ Classy Street ที่สะท้อนตัวตนของ ANURUQ ได้อย่างชัดเจน อัดแน่น ไปด้วยดีไซน์อันโดดเด่น ผสมผสานกับเรื่องราวการเดินทางอันน่าตื่นเต้นและน่าประทับใจของเด็กวัยกำลังซน ภายใต้คอลเลกชัน “Take a trip to the thrill” ปิดท้ายโชว์กับ SRETSIS แบรนด์ที่แจ้งเกิดบนรันเวย์ ELLE Fashion Week เมื่อปี 2003 จนเติบโตเป็นที่รู้จักในระดับโลก โดย พิมพ์ดาว สุขะหุต มาพร้อมกับความเป็นเด็กสาวที่โตขึ้นในคอลเลกชันที่ชื่อ Essentially Yours กับสไตล์เสื้อผ้าชิ้นเบสิกที่มีความคลาสสิกไม่ได้แปรผันไปตามเทรนด์ของฤดูกาล แต่ก็ยังเต็มไปด้วยรายละเอียดและความเซอร์ไพรส์ในรูปแบบ SRETSIS

สำหรับโชว์วันที่ 3 (วันที่ 11 ตุลาคม 2567) พบกับตัวแทนความเป็นอิสระของผู้หญิงยุคใหม่บนรันเวย์ ELLE Fashion Week กับ แบรนด์ PETCHPLOY โดย พิมพ์พิตา ทรัพย์วงภูนปวี ตัวแทนความเป็นอิสระของผู้หญิงยุคใหม่บนรันเวย์ ELLE Fashion Week ในครั้งนี้ กับคอลเลกชันนี้ได้แรงบันดาลมาจากสไตล์ของผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลในระดับโลก ที่ประสบความสำเร็จและเป็นโรลโมเดลของผู้หญิงในเจเนอเรชันใหม่ ถ่ายทอดซิลูเอตของเสื้อผ้าที่ผสมผสานทั้งความแข็งแกร่งและอ่อนโยนได้อย่างลงตัว

ตื่นตากับโชว์พิเศษ THE ONE TO WATCH จาก 3 Young Designers ได้แก่ แบรนด์ LAROBE8 โดย นันทิกานต์ สิงหา ที่มีเอกลักษณ์ด้วยการใช้วัสดุอย่างผ้าตาข่าย ผ้าลูกไม้ และผ้าทวีดในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่มีความคลาสสิก หรูหรา มีความอ่อนหวานและเซ็กซี่ มาพร้อมกับคอลเลกชัน Glass of Rosé ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการไปท่องเที่ยวที่ประเทศโมนาโก, แบรนด์ O.D.C X BBMP การรวมตัวกันของสองแบรนด์น้องใหม่ แบรนด์ O.D.C โดย สาวิตรี  ไวทยาการ และ กฤตยชญ์ รอดบุญพา แบรนด์ที่มีเอกลักษณ์จากการนำเอาศิลปะในยุคเรอเรซองส์ผสานกับเสื้อผ้าที่มีความร่วมสมัยและ BBMP โดย อลิสา ขุนแขวง แบรนด์ที่มีความโดดเด่นในเสื้อผ้าสไตล์สปอร์ตที่มีความสนุกสนานและสามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ และ แบรนด์ YUNCHANNY โดย ชนกานต์ เมฆจำเริญ อดีตนักศึกษาแฟชั่นจากรั้ว มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) หยิบเอาทฤษฎีที่กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงหรือ Chaos Theory นำมาออกแบบเครื่องแต่งกาย ซึ่งเธอกำหนดขนาดเสื้อผ้าทุกชิ้นในคอลเลกชันให้มีเพียงขนาดเดียว มีการใช้ผ้าอัดพลีตและเทคนิคจับจีบทวิสต์ผสานกับดีไซน์ลวดลายกราฟิก เมื่ออยู่บนสรีระของผู้สวมใส่แต่ละคน จึงให้ผลลัพธ์เปลี่ยนไปตามรูปร่างและท่าทางการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน

ต่อกันที่โชว์ของ แบรนด์ WACAY แบรนด์ที่ผสมความ Modern & Creative ของสองพี่น้อง 
ณัฐชา และ ชิดชนก หอสัจจกุล ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการผลิตลวดลายโมโนแกรมของตนเองขึ้นมา พร้อมกับการใช้ผ้านิต เดนิม ที่ตอบโจทย์ผู้หญิงใน Lifestyle แบบ Summer & City กับโชว์สุดพิเศษคอลเลกชัน House of WACAY ซึ่งเป็นการรวบรวมเอกลักษณ์งานออกแบบของแบรนด์ทั้งหมดมานำเสนอในมิติใหม่
ปิดท้ายกับ แบรนด์ VVON SUGUNNASIL โดย ทัตวร สุกัณศีล ที่ร่วมนำเสนอผลงานบนรันเวย์ ELLE Fashion Week ครั้งแรก โดยถ่ายทอดประสบการณ์ของการทำงานในแบบความถนัดเฉพาะตัวกับเสื้อผ้าแบบ Modern Tailoring และนำมาสู่การตัดเย็บอย่างประณีตในคอลเลกชัน ready to wear ที่ยังคงความโก้หรูมีดีเทล และสามารถเป็นไอเทมชิ้นโปรดที่สามารถหยิบจับมา mix and match ใช้ได้ในทุกโอกาสสำหรับทุกคน ตามแบบฉบับของ VVON SUGUNNASIL

สำหรับโชว์วันสุดท้าย (วันที่ 12 ตุลาคม 2567) เริ่มต้นกันที่โชว์พิเศษจาก ICONCRAFT ผู้สนับสนุน ดีไซเนอร์ไทยสู่เวทีระดับโลก นำเสนอความงดงามเหนือกาลเวลาของผ้าบาติกไทยครั้งแรกบนรันเวย์ ELLE Fashion Week 2024 กับโชว์ชุดพิเศษ “Timeless Crafting with Batik” ผลงานการออกแบบของ 3 ไทยดีไซเนอร์ระดับแนวหน้า HOME Studio SHOP, WISHARAWISH และ KANAPOT สะท้อนถึงพลังสร้างสรรค์ของไทยดีไซเนอร์ ผ่านผืนผ้าบาติกที่เปี่ยมเสน่ห์เหนือกาลเวลา ด้าน แบรนด์ NICHp โดย ณิชา ประสานเกลียว ผู้หลงใหลในงานออกแบบที่เดินทางมาถึงปีที่ 10 ของแบรนด์ พร้อมเอกลักษณ์ความมินิมอล เรียบหรู มาพร้อมกับคอลเลกชัน Eternity ที่มีความหมายถึงการเดินทางต่อไปข้างหน้าไม่มีที่สิ้นสุด นำเสนอเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์และลูกเล่นกับการสร้างความผสมผสานด้วยวัสดุใหม่ที่มีความเป็น ฟิวเจอริสติกที่นำมาผสานกันได้อย่างลงตัว

ปิดฉาก ELLE Fashion Week 2024 กับโชว์ HOOK’S PRESENTED BY ZEEKR แบรนด์ของ
ไทยดีไซเนอร์ระดับแถวหน้าของวงการ ผักกาด-ประภากาศ อังศุสิงห์ มาในธีม DEMONSTERS KIDS การทำลายกรอบความคิดและรูปแบบที่เคยทำไว้ทั้งหมด การ refresh ตัวเองด้วยแนวทางการออกแบบที่แตกต่าง แปลกใหม่ ไปจากเดิม DEMONSTERS KIDS คือการเริ่มต้นใหม่ ในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง บอกเล่าความสวยงาม สนุกสนาน ความลึกลับ ผ่านเสื้อผ้าในคอลเลกชัน และ โชว์ performance ที่เป็นประสบการณ์ใหม่ของ HOOK’S
อัปเดตโลกแห่งแฟชั่น และติดตาม ELLE Fashion Week 2024 ได้ที่ ELLE และ ELLE Men ตามร้านหนังสือชั้นนำใกล้บ้านหรือช่องทาง ออนไลน์ได้ที่ https://ellethailand.com/, https://ellementhailand.com/, IG @ellethailandofficial และ @ellementhailand และ Facebook : ELLE Thailand และ ELLE MEN Thailand

#EFW2024 #SeeYouAtTheTent #YouthEnergy #EFW24ATICONSIAM #ICONSIAM
#DJ1942 #LauraMercierTH #TRESemmeThailand #ZeekrThailand #KIRINATU

Published by Jade-ThaiCatWalk

Editor - ThaiCatwalk.Com and Runway Photographer PR, Brand Acknowledgement, Advertorial