Fashion Show : The 5th Grand Sport Young Designer Contest
Brand : Grand Sport
Venue : The Mall, Bangkapi
Date / Time : 21 April 2009,14.00

The 5th Grand Sport Young Designer Contest 2009

แกรนด์สปอร์ต เปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่สร้างสรรค์ศิลปะสู่วงการกีฬา
จัดโครงการประกวดออกแบบเสื้อผ้า “The 5th Grand Sport Young Designer Contest”
11 ดีไซเนอร์จากรั้วมหาวิทยาลัย ร่วมชิงชัยรอบตัดสิน 21 เม.ย.นี้

Click here to Google Photo Gallery

เปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่สร้างผลงานด้านการออกแบบเสื้อผ้ากีฬามาหลายครั้งแล้ว ในปีนี้ บริษัท แกรนด์ สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายเสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา มาเป็นเวลากว่า 47 ปี ยังคงมุ่งมั่น ทำหน้าที่สำคัญคือ จัดโครงการ “แกรนด์ สปอร์ต ยังดีไซเนอร์ คอนเทสต์” (The 5th Grand Sport Young Designer Contest) ขึ้นเป็นปีที่ 5 ขึ้น เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้นิสิต นักศึกษา ได้มีโอกาสแสดงความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาทักษะเชิงปฏิบัติการด้านงานออกแบบ และผลิตเสื้อผ้า ชุดกีฬา เข้าสู่วงการผลิตภัณฑ์กีฬา ซึ่งได้รับความสนใจจากนิสิต นักศึกษาทั่วประเทศ ส่งผลงาน เข้าร่วมประกวดจำนวนมากเช่นเดิม และผ่านการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 11 คน ส่วนสุดยอด ผลงานทั้งหมดที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้น จะนำมาสู่สายตาผู้ชมเพื่อหาผู้ชนะเลิศ ในวันอังคารที่ 21 เมษายน นี้ เวลา 14.00น.โดยมี วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธาน ในพิธีเปิด ณ ชั้น 4 เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ

ธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม ผู้อำนวยการทั่วไป บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด ในฐานะประธานโครงการ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ใน การจัดงานประกวดในปีนี้ว่าเพื่อส่งเสริมสังคม และสนับสนุนการอยู่ ร่วมกันด้วยความเอื้ออาทร ห่วงใย ดูแล รักสามัคคี ปรองดอง เพื่อสังคมไทย และสังคมโลกที่น่า อยู่ตลอดไป อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนรักสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย จึงกำหนดให้ ใช้แนวคิดในการ ออกแบบเสื้อผ้าสำหรับเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย ซึ่งสามารถใช้สวมใส่ได้จริง ในชีวิตประจำวัน ภายใต้แนวคิด “แชร์ (SHARE)” เพื่อเน้นถึงเรื่องการแบ่งปันในสังคม ทุกคนอยู่ร่วมกัน ได้ ไม่มีการแบ่งแยก หรือมองว่าสิ่งไหนเป็นของใคร แต่สามารถนำมาใช้ร่วมกัน หรือบางคนเมื่อใช้แล้ว ก็ต้องส่งต่อให้คนรุ่นต่อไป

“ความ พิเศษของการจัดงานในปีนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 ถ้าในแง่ของการนำเสนอ คงไม่มีอะไรมาก แต่เราให้ ความสำคัญกับเด็กที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า เช่น เพิ่มการเข้าแคมป์ (Camp for Life) ขึ้นมาในรอบ 30 คน ต่างจากปีก่อนที่จะมีในรอบ 10 คนสุดท้ายเท่านั้น ดังนั้นปีนี้เด็กที่ผ่านรอบแรกจะได้ อบรมขั้นพื้นฐาน ทางด้านความคิด ด้านศิลปะจากคณาจารย์ และได้มีส่วนร่วมในงานของตัวเองมากขึ้น เหมือนเรา พัฒนาให้เขาคิดเอง ทำได้เอง เพราะในการประกวดปีแรกเราให้น้องๆ ส่งชุดที่สำเร็จรูปเข้ามาเลย ปีนั้น มีทั้งน้องที่ทำเอง และน้องที่ให้แกรนด์สปอร์ตเป็นพี่เลี้ยงให้ ปรากฏว่าผลงานแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด พอปีต่อมา เราจึงคิดว่าจัดอบรมเรื่องนี้เลยดีกว่าเพราะบางครั้งคนออกแบบ เขาไม่มีความชำนาญ เรื่องการตัดเย็บ ตรงนี้จึงน่าจะเป็นจุดเสริมให้น้องๆ ที่จะมาเป็นดีไซเนอร์ในอนาคต ว่าเมื่อคุณคิดงาน ขึ้นมาแล้วก็ต้องปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับการตัดเย็บ และตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่จะจำหน่ายด้วย” ธิติ กล่าว

ที่ น่าทึ่งกว่านั้น คือ ผลงานของผู้เข้ารอบสุดท้ายในปีนี้ ยังมีความคิดสร้างสรรค์ที่น่าสนใจมากกว่า การเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่สำหรับเล่นกีฬา เพราะนำเสนอออกมาเป็นธีมได้ 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ ด้านกีฬา ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสังคม เพื่อสื่อให้ผู้ที่เข้าชมผลงานเห็นว่า สิ่งที่ทุกคนสามารถแบ่งปันกันได้ มีอะไรบ้าง
แต่ธีมเหล่านี้เป็นเพียงการนำเสนอเท่านั้น ไม่มีผลต่อคะแนนการตัดสิน เพราะกรรมการ จะมีเกณฑ์ให้ คะแนน จากวิธีคิด และเนื้องานของผู้เข้าประกวดเป็นหลักว่าสิ่งที่คิด และนำมาประยุกต์กับเสื้อผ้า มีความสอดคล้องกันหรือไม่ ต่อมาคือเรื่องการตัดเย็บ โดยดูว่าตอนที่คิดคอนเซ็ปท์ มีการคิดถึง ฟังก์ชั่นการใช้งานหรือไม่ อย่างชุดเทนนิส หรือฟุตบอล หากรุ่มร่ามมากไปก็ใช้งานไม่สะดวก สุดท้ายเป็นวิธีการนำเสนอ ถ้าดีไซเนอร์ไม่มีวิธีนำเสนอที่ดีให้ผู้ฟังทราบได้ ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ทางแกรนด์สปอร์ต จึงมีการอบรมเสริมในเรื่องนี้ให้น้องๆ เพื่อใช้เวลานำเสนอต่อคณะกรรมการด้วย

“ใน ฐานะที่ แกรนด์สปอร์ต เป็นบริษัทกีฬา แต่เราถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในการจัด โครงการประกวดออกแบบแฟชั่นกีฬานี้ เพราะเราให้ความสำคัญกับการออกแบบ คุณภาพของการตัดเย็บ ทำให้ผู้ใช้เกิดความมั่นใจมากขึ้น และมีเสียงตอบรับที่ดีกลับมา ซึ่งเห็นผลได้จากกลุ่มที่ใช้เสื้อผ้า ซึ่งก็คือ นักกีฬา หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับกีฬา และสโมสรต่างๆ ในการประกวดทุกครั้ง เราเชิญผู้ที่เป็น กลุ่มเป้าหมายในการใช้สินค้าเข้ามาชมงานตลอด อย่างการประกวดครั้งที่ 3 ตอนนั้นประเทศไทย เป็นเจ้าภาพซีเกมส์พอดี เราให้โจทย์เรื่องการออกแบบชุดกีฬาทีมชาติไทย น้องๆ ก็ออกแบบมาได้ดี เราจึงนำผลงานนั้นมาประยุกต์ใช้กับ ชุดนักกีฬาไทยที่ไปแข่งโอลิมปิกที่จีน เมื่อปี 2008 ที่ผ่านมา เป็นรูปธงชาติ ซึ่งเป็นชุดที่ประสบความสำเร็จ และเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ มาก ใครเห็นก็รู้ว่า เป็นชุดของทีมชาติไทย”

หัวเรือใหญ่โครงการนี้ กล่าวอีกว่า นอกจากเป็นการส่งเสริมคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในวงการกีฬาแล้ว โครงการนี้ยังถือเป็นส่วนหนึ่งที่แกรนด์สปอร์ตสามารถคืนสู่สังคม ในเรื่องของ CSR (Corporate Social Responsibility) เพราะผู้ที่เข้าร่วมโครงการ หรือสถาบันต่างๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทางแกรนด์สปอร์ตรับผิดชอบทุกอย่าง แม้กระทั่งเด็กที่อยู่ต่างจังหวัด ที่ร่วมประกวด ก็ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง หรือค่าที่พัก เพียงมาแต่ตัวและหัวใจเท่านั้น การจัดโครงการนี้ จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม มากกว่าการให้เป็นตัวเงินเพียงอย่างเดียว
สำหรับขั้นตอนสุดท้าย ในการประกวดนั้น น้องๆ ที่เข้ารอบ ทั้ง 11 คน จะได้รับทุนคนละ 5,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการตัดเย็บ เนรมิตไอเดียที่ออกแบบให้กลายเป็นชุดที่สวมใส่ได้จริง และนำเสนอ ผลงานพร้อมด้วยชุดที่ตัดเย็บจริง ให้คณะกรรมการได้ตัดสินหาผู้ชนะในรอบชิงชนะเลิศ โดยเกณฑ์การ ตัดสินจะพิจารณาจากความคิดสร้างสรรค์ และประโยชน์ใช้สอย รวมถึงผลงานที่ออกแบบต้องสอดคล้อง กับแนวคิดที่กำหนดไว้คือ แชร์ (SHARE) โดยผลงานของผู้ที่เข้ารอบทั้ง 11 คน แบ่งเป็น ชุดกีฬาชาย และชุดกีฬาหญิง ดังนี้

ประเภทชุดกีฬาชาย มีผู้ส่งประกวดทั้งหมด 6 ผลงาน ได้แก่

ครรชิต ชนะชัยพานิช ชั้นปีที่3 สาขาการออกแบบทัศนศิลป์-การออกแบบแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กับผลงาน Small of Share เป็นชุดว่ายน้ำ

ประภากร เทียมทัด ชั้นปีที่ 3 สาขานาฏศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร
วิโรฒ เจ้าของผลงาน This is our cry, this is our prayer, peace in the world เป็นชุดเทนนิส

นนทกรณ์ อิศรมงคลรักษ์ ชั้นปีที่4 สาขาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กับผลงาน Shoot and Share ประเภทชุดบาสเก็ตบอล

วรวิทย์ รูปสมศรี ชั้นปีที่ 2 สาขาการออกแบบทัศนศิลป์-การออกแบบแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งออกแบบชุด ปั่นจักรยาน ภายใต้ชื่อ Unity sport just fun sharing…just play together

สุวพันธ์ ทองสถิตย์ ชั้นปีที่1 ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับการออกแบบชุดนักกฬาวีลแชร์ ในชื่อผลงาน Wheelchair Racing

ประชา บุญมา ชั้นปีที่ 3 สาขาออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กับผลงานชุดเทนนิส ในชื่อ Thailand Harmonize (be united)

ประเภทชุดกีฬาหญิง มีผู้ส่งประกวดทั้งหมด 5 ผลงาน ได้แก่

วันวิสาข์ นิมิตอานันท์ ชั้นปีที่1 สาขาวิชาออกแบบเครื่องแต่งกาย คณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กับผลงานชุดแอโรบิค ชื่อ Take My Blood

ศันสนีย์ ศักดิ์ชลาธร ชั้นปีที่ 4 สาขาผ้าและเครื่องแต่งกาย-ธุรกิจเสื้อผ้า คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ เจ้าของผลงานชุดแอโรบิก ที่ชื่อ My Song My Music

ฐาปนา ชูชาติพงษ์ ชั้นปีที่3 สาขาการออกแบบทัศนศิลป์-การออกแบบแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผู้ออกแบบชุดกีฬากอล์ฟ โดยใช้ชื่อผลงานว่า Super Heroes

ณัฐณิชา โอภาสสุขสถิต ชั้นปีที่1 ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับผลงานชุดเทนนิส ชื่อ Give Green’Get Global

สุภัสสร เทียมศักดิ์ ชั้นปีที่ 3 สาขาออกแบบแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ซึ่งออกแบบชุดกีฬาปั่นจักรยานหญิง ที่มีชื่อผลงานว่า Kod (กอด)

ในรอบตัดสินนี้ ผู้ชมภายในงานจะได้ชมผลงานสุดสร้างสรรค์ของนักศึกษาที่เข้ารอบทั้ง 11 คน ผ่านแฟชั่นโชว์ในธีมต่างๆ เช่น ธีมสังคม (Social), ธีมส่งแวดล้อม (Environment) และ ธีมกีฬา (Sport) โดยนายแบบ นางแบบรับเชิญ ได้แก่ เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา, แจ๊บ-เพ็ญเพชร เพ็ญกุล, และเติ้ล-ตะวัน จารุจินดา พร้อมร่วมลุ้นว่าเจ้าของผลงานชุดใดจะได้เป็นสุดยอด ยังก์ ดีไซเนอร์ ในการประกวด พร้อมครองรางวัลต่างๆ ดังนี้

• รางวัล ยอดเยี่ยม ประเภทชุดกีฬาชาย และชุดกีฬาหญิง จะได้รับถ้วยรางวัลประทานพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พร้อมทุนการศึกษา 30,000 บาท
• รางวัลดีเด่น ประเภทชุดกีฬาชาย และชุดกีฬาหญิง จำนวนละ 9 รางวัล จะได้รับถ้วยรางวัล พร้อมทุนการศึกษา 5,000 บาท

บริษัท แกรนด์ สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา มาเป็นเวลากว่า 47 ปี ได้ให้ความสำคัญกับงานออกแบบ และการพัฒนาคุณภาพสินค้ามาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จาก การเปิดแผนกออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2528 โดยมีการศึกษา วิจัยเพื่อนำข้อมูลสู่การพัฒนา ผลิตภัณฑ์มาใช้ในทุกกระบวนการของการผลิตการ ในความสำคัญ กับงานออกแบบส่งผลให้เสื้อผ้ากีฬาของ แกรนด์สปอร์ตมีหลากหลาย รูปแบบ และตอบสนองความ ต้องการ ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

ร่วม ชม และเชียร์ผลงานการออกแบบ ของดีไซเนอร์รุ่นใหม่ไอเดียสร้างสรรค์ ที่จะมายกระดับ แฟชั่นวงการเสื้อผ้ากีฬาให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น กับการประกวด “The 5th Grand Sport Young Designer Contest” ซึ่งนอกจากเป็นกิจกรรม ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับ ประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านกระบวน การเรียนรู้อย่างมืออาชีพแล้ว ยังทำให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบว่า ศาสตร์คนละแขนงอย่าง ศิลปะ และกีฬา นั้น ก็สามารถมา “แชร์ (SHARE)” เพื่อรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ด้วยเช่นเดียวกัน