SIRIVANNAVARI SS17
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ทรงเผยโฉมคอลเลคชั่นทรงออกแบบสปริง/ซัมเมอร์ 2017 ภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’HOMME
15 March 2017 @ Royal Paragon Hall

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเผยโฉมคอลเลคชั่นทรงออกแบบ สปริง/ซัมเมอร์ 2017 ภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’HOMME

“เมื่อเราได้พบกัน เมื่อเราได้รู้จักกัน เมื่อเราได้สัมผัสซึ่งความรัก เมื่อเราได้พลัดพราก เมื่อเราได้ระลึกถึงกัน เมื่อกาลเวลามาถึง เมื่อชั่วขณะที่เราได้พบกันอีกครั้ง คือจุดเริ่มต้น คือจุดสิ้นสุด คือทุกสิ่งที่หลอมรวมอยู่ในความสั่นสะเทือนของความรักที่พ้นประมาณ”

ตอนหนึ่งจากบทพระนิพนธ์ พ.ศ. 2559 ใน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์  เมืองแวร์ซายส์, ประเทศฝรั่งเศส

Click here for GOOGLE PHOTO GALLERY

เรื่องราวแห่งความรักของชายหญิงคู่หนึ่งจากการเดินทางในท้องทะเลอันไกลโพ้นราวเทพนิยาย ที่เปี่ยมด้วยความทรงจำ ความโรแมนติค และความโศกเศร้าภายใต้ท้องนภาอันกว้างใหญ่ ซึ่งโอบล้อมไป ด้วยประกายแห่งแสงจันทร์ ดวงดาวที่พร่างพราย และเส้นขอบฟ้าที่ไม่รู้จบ อันเป็นบทพระนิพนธ์ใน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ คือแรงบันดาลพระทัยหลักในการทรงงานออกแบบ คอลเลคชั่นประจำฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2017 ภายใต้แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” ที่โดดเด่นด้วยโครงสร้างเสื้อผ้าที่ดูเฟมีนีน งานปักชั้นครู ไปจนถึงลายกราฟฟิคฝีพระหัตถ์

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงมีรับสั่งว่า “ข้าพเจ้าได้ประพันธ์กลอนไว้หนึ่งบท ซึ่งเป็นเรื่องราวของความรักระหว่างคนและเทพธิดาแห่งท้องทะเล หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ได้นำเรื่องราวดังกล่าว มาตีความเป็นแฟชั่นในคอลเลคชั่นสปริง/ซัมเมอร์นี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเสื้อที่มีความพริ้วไหวและอ่อนหวาน เทคนิคการตัดเย็บที่ทำให้เสื้อมีความเป็นเฟมินีนขึ้นไปอีก งานปักที่บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด รวมไปถึงการนำสัญลักษณ์ต่างๆ ทั้ง ภาพจักราศรี พระจันทร์ ดวงดาว ม้าน้ำ เข็มทิศ ปะการัง เปลือกหอย ลายทางกะลาสี แมงกะพรุน ฯลฯ มาแสดงถึงจินตนาการของข้าพเจ้าเพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจถึงคอนเซ็ปท์ของคอลเลคชั่นล่าสุดนี้”

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงมีรับสั่งต่อว่า “สำหรับคอลเลคชั่นนี้ ถ้าดูอย่างผิวเผินก็จะดูเหมือนว่าเสื้อผ้านั้นเรียบง่ายมาก แต่ถ้าดูอย่างละเอียดหรือได้สัมผัสเนื้องาน จะรู้เลยว่าโครงเสื้อและแพทเทิร์นเสื้อผ้าที่ดูเรียบง่ายนั้น ได้แล้วซ่อนเทคนิคที่ซับซ้อนและรายละเอียดอันหลากหลาย อาทิ เทคนิคการจับเดรปผ้าเจอร์ซี่ย์แบบเทพธิดากรีก (Greek Goddess drapery) เทคนิคการพิมพ์ผ้าแบบ Wood Cut ตามแบบฉบับของญี่ปุ่นไว้ซึ่งข้าพเจ้าใช้เวลาทำนับเดือน”

สำหรับคอลเลคชั่นเสื้อผ้าทรงออกแบบสำหรับสุภาพสตรีประจำฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2017ประกอบด้วยจำนวนเสื้อผ้าทั้งสิ้น 54 ลุค แบ่งเป็นเสื้อผ้าสุภาพสตรี 48 ลุค และเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ 6 ลุค มีความโดดเด่นที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่โครงสร้างเสื้อผ้าแบบไม่สมมาตร (Asymmetrical) ที่เห็นได้จากชุดเดรสคล้องคอ (Halter Neck Dress) ผ้าเจอร์ซี่ย์ที่จับเดรปเฉลียงไปมาแบบเทพธิดากรีก โครงสร้างชุดเดรสที่ช่วงกระโปรงเป็นแบบฟลามิงโก้จับพลีตเน้นวอลลุ่มของกระโปรง ไปจนถึงไบเกอร์โค้ตที่ปักลูกปัดระยับที่เข้าคู่กับเสื้อท็อปผ้าบุหงา ซีทรูและกางเกงเดนิมไบเกอร์ขาดๆ (Distressed Biker Jeans) เพื่อสร้างความขัดแย้ง

สิ่งพิเศษที่เห็นได้อย่างชัดเจนในคอลเลคชั่นนี้ ก็คือ งานปักจากช่างฝีมือชั้นครู ซึ่งเป็นทีมช่างปักของ แบรนด์ SIRIVANNAVARI เอง โดยนำเสนองานปักหลายรูปแบบบนเสื้อผ้าหลากสไตล์ อาทิ งานปักลูกปัดคริสตัลระยับรูปดาวบนไบเกอร์โค้ต การปักบทกลอนและสัญลักษณ์แห่งท้องทะเลบนผ้าบุหงา (ผ้า Tulle) ซึ่งเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความประณีตเป็นอย่างสูง

เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่โดดเด่นของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ก็คือลายพิมพ์ภาพกราฟฟิคทรงออกแบบ ซึ่งในซีซั่นนี้ องค์ดีไซเนอร์ได้ทรงออกแบบลายพิมพ์ที่ถ่ายทอดจินตนาการของบทกลอนพระนิพนธ์ที่เกี่ยวกับความรักของชายหญิงคู่หนึ่งจากการเดินทางในท้องทะเล ดังนั้นภาพกราฟฟิคจะเป็นรูปภาพของคลื่นทะเล ท้องฟ้า พระจันทร์ ดวงดาว สัตว์ต่างๆ ในท้องทะเล ลายกะลาสี และภาพสัญลักษณ์จักราศรี นอกจากนี้ องค์ดีไซเนอร์ยังได้ทรงนำเทคนิคการพิมพ์ผ้าแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า Wood Cut มาใช้อีกด้วย ซึ่งเทคนิคดังกล่าวพระองค์หญิงทรงนำแท่นพิมพ์ไม้มาแกะสลักให้เป็นลายภาพ หลังจากนั้นจึงทรงทำการพิมพ์ภาพลงไป ซึ่งเทคนิคนี้จะให้สัมผัสของภาพพิมพ์ที่แตกต่างออกไป โดยพระองค์หญิงทรงออกแบบลายพิมพ์แบบ Wood Cut ถึง 3 ลายด้วยกัน ได้แก่ ท้องฟ้าและคลื่น คลื่นทะเลและดวงดาวกับนกยูง

นอกจากนี้ คอลเลคชั่นล่าสุดยังนำเสนอคอลเลคชั่นเครื่องประดับจิวเวลรี่ที่ดูวิจิตรตระการตาภายใต้
ธีมของคอลเลคชั่นเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน ดังเห็นได้จากสร้อยประดับอัญมณีรูปดาว พระจันทร์ ม้าน้ำ แหวนลงยาสัญลักษณ์ตัว S ประดับมุขและลาปิส (Lapis) ต่างหูรูปพระจันทร์เสี้ยว ต่างหูเปลือกมุก และ Ear Cuff รูปดาว ไปจนถึง Hand Cuff ลงยา ไฮไลท์ของคอลเลคชั่นเครื่องประดับคงหนีไม่พ้น เทียร่าโลหะทองรูปดาวและพระจันทร์ประดับมุกพร้อมหวีสับทองในดีไซน์เดียวกัน สร้อยโชกเกอร์โลหะทองรูปดาวและตกแต่งด้วยโซ่ทองระย้า รวมถึง สร้อยสังวาลย์คล้องลำตัวที่ทำจากไข่มุกและโลหะทองรูปปะการัง

สำหรับคอลเลคชั่นเครื่องหนังในซีซั่นนี้ก็เน้นกระเป๋าคลัทช์ที่คัดสรรวัสดุหลากหลายมาตัดเย็บตั้งแต่ผ้าคอตตอนเดนิมลายทางขาว หนังลิซาร์ด (Lizard) หนังจระเข้ และหนังวัวพิมพ์ลายกราฟฟิค ซึ่งดูโดดเด่นด้วยการประดับโซ่ทองระย้า หมุดโลหะทอง มุก และการปักโลโก้ลายนกยูง ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าหนังดำที่โดดเด่นด้วยลายปักสัญลักษณ์นกยูงและตกแต่งด้วยมุกน้ำจืดหลากสีหลายขนาดและโซ่ทอง กระเป๋าโพเช็ทต์ (Pochette) ที่ตัดเย็บด้วยหนังลิซาร์ดผสมหนังจระเข้สีแดงและประดับด้วยโลหะรูปปะการังและมุกทอง อีกทั้งกระเป๋าคลัทช์ยูนิเซ็กส์ (Unisex) ลายทางกะลาสี (Marine Stripe) ในขณะที่คอลเลคชั่นรองเท้าก็จะดูลำลอง โปร่งสบายด้วยรองเท้าสานที่นำเชือกมาขดเป็นโครง มีทั้งส้นแบนและส้นเวดจ์ (Wedge shoes) ที่ดูสวยงามด้วยการประดับมุกในรูปแบบต่างๆ อีกทั้งยังมีความพิเศษที่ส้นเวดจ์ที่มีลายพิมพ์ภาพสัตว์น้ำและท้องทะเล

เพื่อความสมบูรณ์ของคอลเลคชั่น องค์ดีไซเนอร์ทรงออกแบบคอลเลคชั่นชุดว่ายน้ำซึ่งทำให้ผู้สวมใส่เพิ่มความเซ็กซี่ด้วยโครงสร้างแบบ Cut Out อวดเรือนร่างของหญิงสาว และเพิ่มความมีระดับด้วยการประดับคริสตัลซวารอฟสกี้สีสั่งทำพิเศษเฉพาะ (Custom made) อีกทั้งยังมีเสื้อคลุมอาบน้ำเพื่อไลฟ์สไตล์ที่โก้หรูสำหรับทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี

นอกจากคอลเลคชั่นของสุภาพสตรีแล้ว ในซีซั่นนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ยังทรงออกแบบคอลเลคชั่นสำหรับสุภาพบุรุษภายใต้แบรนด์ S’Homme (เอส ออม) อีกด้วย โดยสไตล์ของเสื้อผ้าสุภาพบุรุษนั้น มีความโก้หรูและโมเดิร์น ดังเห็นได้จาก เสื้อ Morning Jacket 3 ชิ้น (เสื้อแจ๊กเก็ต Peak Lapel เสื้อเวสต์ และเสื้อทักซิโด้เชิ้ต) ที่ตกแต่งด้วยการปักดิ้นทองลายสัญลักษณ์ตรงชายเสื้อแจ๊กเก็ต ที่เข้าคู่กับกางเกงเทเปอร์ (Tapered pants)รองเท้า Slip on ตกแต่งด้วยการปักดิ้นทองลายนกยูง และเสื้อแจ๊กเก็ตผ้าวูลกระดุมสองแถวเข้ารูปที่ตกแต่งด้วยซิปด้านหน้าที่เข้าคู่กับรองเท้าผ้าคอตตอนสีน้ำเงินลายทางขาวและกระเป๋าคลัทช์สุดเท่ลายทางกะลาสี (Marine Stripe) ไปจนถึงเสื้อเทรนช์โค้ตผ้าวูลลายทางที่ตกแต่งด้วยเข็มขัดผ้าในตัว นอกจากนี้ยังมีเนคไทและหูกระต่ายลายกราฟฟิคประจำซีซั่นอีกด้วย

นอกจากพระปรีชาสามารถในด้านแฟชั่นแล้ว ในปีนี้พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ยังได้แสดงพระอัจฉริยะภาพด้านดนตรี โดยทรงนิพนธ์บทเพลงสำหรับคอลเลคชั่นนี้อีกด้วย โดยบทเพลง พระนิพนธ์ SERENITY พระองค์หญิงได้ทรงนิพนธ์ทั้งคำร้องซึ่งมาจากบทกวีพระนิพนธ์ 3 บทซึ่งเป็นเรื่องราวของความปรารถนา ความรัก การรอคอย และกาลเวลา ที่ผูกร้อยแรงบันดาลใจของ Sirivannavari Spring/Summer 2017 Collection ด้วยบรรยากาศของ ท้องทะเล ความรัก และความสงบ ซึ่งพระองค์หญิงได้ทรงถอดคำจากบทกวีพระนิพนธ์มาร้อยเรียงใหม่ เพื่อทรงนำมาเรียบเรียงทำนอง และเสียงประสาน โดยพระองค์หญิงทรงเป็น Creative director สำหรับบทเพลงพระนิพนธ์ด้วย

บทเพลงพระนิพนธ์นี้อยู่ในรูปแบบของซิมฟานี ออเครสต้า และบรรเลงโดยวง RBSO (Royal Bangkok Symphony Orchestra) โดยแบ่งออกเป็น 4 ช่วงด้วยกัน ได้แก่ จุดเริ่มต้นของเนื้อเรื่อง ตามด้วยเสียงของเขาต่อด้วยความปรารถนาจากเสียงของเธอ และปิดท้ายด้วยบทสรุป

“ในความสงัดเงียบ ณ ห้วงเวลาอันเปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอม ณ ที่นั่น

ความรัก ยังคงเป็นอมตะ และจะยังคงดำรงอยู่เช่นนั้น ในความสงัดเงียบ”

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงมีรับสั่งปิดท้ายว่า “บทสรุปของบทประพันธ์นี้ก็คือ ความรักระหว่างชายหนุ่มธรรมดากับเทพธิดาย่อมฝืนความเป็นจริงไปไม่ได้ ทั้งคู่ต่างต้องยอมรับยถากรรม เมื่อชายหนุ่มนั้นต้องหมดลมหายใจตามอายุขัยของมนุษย์ปุถุชน ในขณะที่ดวงใจของเทพธิดาก็ดับสิ้นตามเช่นกัน หากดวงใจที่แตกสลายนั้นยังคงอยู่ในร่างของนางที่ไม่มีวันดับสูญ”

สามารถชมคอลเลคชั่นทรงออกแบบประจำฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2017 ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’HOMME ได้ที่ร้าน SIRIVANNAVARI ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

SIRIVANNAVARI AND S’HOMME

SPRING/SUMMER 2017 COLLECTION

‘When our paths crossed, When we got to know each other,

When we got to love each other, When we parted,

When we think of each other, Then when time comes,

That particular moment when we meet again will be the beginning as well as the end,

All shall come into one trembling moment full of love’

Written by H.R.H Princess Sirivannavari Nariratana

2016, Versailles, France

H.R.H. Princess Sirivannavari Nariratana unveils SIRIVANNAVARI and S’HOMME Spring/Summer 2017 Collection inspired by the poem written by herself. The poem is about the love story starting with the journey on the sea gaining memory, romance and tragedy under moonlight, shining stars and the limitless sky.

H.R.H. Princess Sirivannavari Nariratana, SIRIVANNAVARI Creative Director said
‘In 2016, I wrote one poem which is about a love story between a gentleman and a goddess. Unexpectedly, the poem has turned to be the beginning of this collection. I found it quite astonishing to translate this poem into a fashion collection. All the details of the collection can be self-explanatory of the whole story; fluid and feminine silhouettes, tailoring technique escalating the ultra-feminine touch and the exquisite embroidery.

‘I intend to make this collection looks simple since simplicity is tastefully elegant. One can always find something interesting and sophisticated in my simplicity in which can be seen from the asymmetrical draped Greek Goddess dress in silk jersey to the Japanese Wood Cut printing technic which I spent time for months to create’ said H.R.H. Princess Sirivannavari Nariratana.

Published by Jade-ThaiCatWalk

Editor - ThaiCatwalk.Com and Runway Photographer PR, Brand Acknowledgement, Advertorial