FashionShow : Sretsis Autumn/Winter 2012, Sweetness
Brand : Sretsis
Venue : Aksra Theatre
Date/Time : 1 September 2012, 18.00
Sretsis Autumn/Winter 2012, Sweetness
Photo by Nattawat (Jade)
จุดเริ่มต้นของการทำคอลเล็คชั่น Sweetness ถูกจุดประกายขึ้น เมื่อพิมพ์ดาว สุขะหุต ย้อนกลับไปมองคอนเซ็ปต์ความงามเกือบ 100 ปีมาแล้ว ภาพพอร์เทรทขาว-ดำของดาราฮอลลีวูด และคนดังในวงการศิลปะสมัย 1930s ของ Horst P. Horst และ George Hoyningen-Huene นั้นเตะตา น่าจดจำ ช่างภาพทั้งสองเก็บรายละเอียดแสงเงาบนตัวคน และเสื้อผ้าได้อย่างสวยสง่าคล้ายรูปปั้นมันจึงกลายมาเป็นนิยามของความสวยไร้กาลเวลาไปในที่สุด
Click here to Google Photo Gallery
คอลเล็คชั่น Sweetness คือความตั้งใจที่จะปรับนิยามของความงามให้เหมาะกับยุคสมัย จากมุมมองของ Sretsis เอง โดยยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิคแบบผู้ใหญ่แต่เพิ่มรายละเอียดอ่อนหวานสนุกๆของเด็กผู้หญิงเข้าไปการตัดทอนและผสมผสานองค์ประกอบที่ขัดแย้งได้อย่างลงตัว คือสิ่งที่ Sretsis กล้าท้าทาย ในทุกๆ คอลเล็คชั่น ผลลัพธ์ที่ได้ในครั้งนี้ คือความงามสมัยใหม่ที่พิมพ์ดาวให้คำจำกัดความว่า “Sleek Cuteness”
ต่างจากทุกครั้งไป ที่ Sretsis มักใช้ผ้าพิมพ์ลายเกี่ยวกับธรรมชาติ อย่างสัตว์หรือดอกไม้เป็นการเล่าเรื่อง มาคราวนี้ Sretsis เลือกคอนเซ็ปต์นามธรรมอย่าง “ความสุขต้องห้าม” ที่เปรียบได้กับการลิ้มรสของหวานอย่างเค้กหรือไอศกรีม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความน่ารักไร้เดียงสาแบบเด็กผู้หญิง โดยดึงรายละเอียดปลีกย่อยของขนมต่างๆเข้ามาเป็นตัวประกอบ เพื่อช่วยเล่าเรื่องแทน ลายขนมหวานเคลือบเกล็ดน้ำตาลหรือกากเพชรถูกนำมาขยายใหญ่จนคล้ายลายกราฟิคปาร์ตี้ องค์ประกอบสนุกๆ นี้เมื่อจับเข้ามาผสมกับหลักการตัดเย็บเสื้อสูทที่เน้นโครงสร้างเรียบเก๋ คือตัวอย่างความงามสง่าจากมุมมองของ Sretsis และเพื่อให้เห็นถึงความสวยที่ไม่พยายามจนเกินไป Sweetness มีพร้อมทั้งมินิสเกิร์ต Cherry Pop, กระโปรงทรงสอบ Cherry Punch, ชุดกระโปรงผ่าหลัง Bittersweet และกางเกงทักซีโด้ทรงแคบ ส่วนชุดค็อกเทล Meringue Pie นั้นถูกนำมาดัดแปลงใหม่โดยมีเทคนิคการจัดชิ้นโบว์ให้ตั้งแข็งเป็นแขนเสื้อ
เสื้อเชิ้ตไม่ว่าจะเป็นผ้าบางหรือซาตินมีงานลูกปัดปักมือตรงปลายปกเหมือนโรยด้วยเกล็ดน้ำตาลและสปริงเกิ้ล รูปทรงและสไตล์ใหม่ใน Sweetness เกิดขึ้นจากการนำเสื้อชีฟอง Glitter Dip Tuxedo มาสวมทับชุดเกาะอก Sugar Date หรือการปรับชุดลำลองให้ดูโก้ขึ้น โดยการดีไซน์จัมพ์เปอร์ผ้าเฟรนช์เทอร์รี่ที่มีความเป็น sportswear คู่กับปกผ้าซาติน ซึ่งมีรายละเอียดชายเสื้อ ซับใน และ slit ข้าง
ผ้าลาย Soft Cream มาใน 3 ชุดสี: Choco Fudge, Bubble Gum และ Candy Mix ซึ่งในแต่ละชุดสีนั้นมีลายท้อปปิ้งที่แตกต่างกันไปด้วย และมีทั้งเวอร์ชั่นผ้าไหมชีฟอง และซาตินยืด ส่วนลาย Cherry Sprinkles มาในผ้าไหมแจ็คการ์ด และเครป เพื่อเพิ่มน้ำหนักรสชาติไอศกรีมให้เข้มข้นขึ้นในวันร้อน อารมณ์ขี้เล่น ดื้อซนของ Sretsis นั้นยังมีอยู่ให้เห็นชัดในลูกเล่นลายกล้วย เชอร์รี่ การจุ่มท้อปปิ้งต่างๆ และการมัดโบว์ไทแบบลูกอม ผ้าเมทัลลิคของ Sweetness นั้นถูกผ่านขั้นตอนดีไซน์การอัดพลีทขึ้นมาใหม่ให้เหมือนขอบคัพเค้ก
ครั้งนี้ Matina Amanita for Sretsis ได้นำเครื่องประดับผลไม้พลาสติกต่างๆ จากสมัย 1950s มาดัดแปลงและเพิ่มเกล็ดน้ำตาลเคลือบให้ดูหวานฉ่ำยิ่งขึ้น Matina Amanita เปลี่ยนมาใช้เหล็กและงานชุบทองทำท้อปปิ้งผลไม้ สปริงเกิ้ล และช็อกโกแลตเคลือบแทน และนี่เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้เทคนิคปั๊มนูน เพื่อให้เครื่องประดับไม่หนักจนเกินไป คอลเล็คชั่นนี้สดใส สนุก เหมือนเด็กที่พร้อมจะลองทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เมื่อสังเกตดีๆ แล้ว จะเห็นได้ถึงการไตร่ตรอยงของรายละเอียดทางเทคนิคมากมาย อย่างเช่น การเคลือบเงา และการเลือกใช้วัสดุคุณภาพ
Sweetness คือคอลเล็คชั่นสำหรับคนที่กล้าจะเป็นทั้งเด็กสาวรักสนุก และลุ่มลึกอย่างผู้หญิงที่เข้าใจโลกในเวลาเดียวกัน Sretsis ได้ปรับนิยามความคลาสสิคให้เป็นเรื่องที่เข้าถึงง่าย จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกระหว่างสองสิ่งนี้อีกต่อไป